สิ่งที่สำคัญสำหรับการนอน นอกจากจะต้องเลือกที่นอนที่ดีมีคุณภาพแล้ว เรายังควรต้องใส่ใจกับการเลือกซื้อผ้าปูที่นอนด้วยค่ะ เพราะผ้าปูที่นอนที่เราเห็นกันอยู่ในท้องตลาดนอกจากจะมีความสวยงามแตกต่างกันแล้ว ยังผลิตมาจากผ้าต่างๆ ที่มีเนื้อผ้าไม่เหมือนกันด้วย
และเนื้อผ้าที่ดีระบายอากาศจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการนอนหลับของเรานั่นเอง และในปัจจุบันนี้ก็มีเนื้อผ้าที่หลากหลายให้เราเลือกใช้อีกด้วยค่ะ ดังนั้นเรามาดูกันว่ามีเนื้อผ้าแบบไหนบ้าง
ผ้าฝ้าย เป็นผ้าที่มีเนื้อสัมผัสที่นุ่มเป็นพิเศษกว่าผ้าชนิดอื่นๆ จึงได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากผ้าฝ้ายเป็นผ้าที่ได้จากเส้นใยธรรมชาติ จึงถ่ายเทอากาศได้ดี ไม่ร้อน ดังนั้นเมื่อนำมาใช้ทำเป็นผ้าปูที่นอน ก็จะช่วยระบายอากาศและไม่ร้อนเวลานอนอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีความคงทนแข็งแรง ซึ่งผ้าปูที่นอนผ้าฝ้ายที่ได้ชื่อว่าเป็นผ้าที่มีคุณภาพดีที่สุดคือ Egyptian cotton และ Pima cotton ทั้งสองชนิดนี้เป็นผ้าฝ้ายที่มีเส้นใยเหนียว แน่นและทนทาน ทั้งยังดูแลรักษาง่ายอีกด้วยค่ะ
ผ้าฝ้ายผสมใยสังเคราะห์ หรือที่เราเรียกว่า Poly-Cotton แน่นอนว่าคุณสมบัติเรื่องนุ่ม แข็งแรงทนทานของผ้าฝ้ายไม่ต้องพูดถึง แต่เรื่องการระบายอากาศอาจจะไม่ดีเท่าผ้าฝ้าย 100% แต่ก็ไม่ถึงขั้นร้อนมาก และที่สำคัญคือ ไม่ยับง่ายเหมือนผ้าฝ้าย แถมยังราคาประหยัดกว่าด้วย
ผ้าซาติน เป็นผ้าที่มีความนุ่ม เรียบและลื่น ดูหรูหรา เวลาใช้จะรู้สึกสบายผิว แต่ข้อเสียผ้าปูที่นอนผ้าซาตินคือเรื่องของความคงทนค่ะ
ผ้าสักหลาด เป็นผ้าที่ทำจากขนสัตว์ ผสมกับฝ้ายหรือใยสังเคราะห์ เหมาะสำหรับฤดูหนาว เพราะเป็นผ้าที่ให้ความอบอุ่นได้ดี ดังนั้นในหน้าร้อนบ้านเราก็จะไม่ค่อยเหมาะsกับผ้าปูที่นอนสักหลาดเท่าไหร่ เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนมากนั่นเองค่ะ
ผ้าไหม เป็นผ้าที่ราคาสูง มีความนุ่ม ด้วยความที่เป็นผ้าไหมจึงมีความหรูหราแต่ว่าความทนทานน้อย ส่วนมากผ้าปูที่นอนผ้าไหมจะนิยมให้เป็นของขวัญคู่บ่าวสาว
นอกจากผ้าประเภทต่างๆ เหล่านี้แล้วทำให้ผ้าปูที่นอนแต่ละแบบแตกต่างกัน เรื่องของความหนาของเส้นด้ายที่ใช้ในการถักทอ ก็มีผลต่อคุณสมบัติความนุ่มความหนาของผู้ปูที่นอนด้วยเช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่าผ้าปูที่นอนที่ดี ก็ควรเป็นผ้าปูที่มีความหนาแน่นจากการทักทอ เป็นผ้าปูที่มีความหนาแน่นจากเส้นด้ายนั่นเองค่ะ และเมื่อเรารู้จักผ้าแต่ละชนิดที่ใช้ทำผ้าปูที่นอนแล้ว อย่าลืมเลือกใช้ผ้าปูที่นอนที่เหมาะกับเราและสภาพอากาศด้วยนะคะ